NEXT GEN

ธุรกิจงานอาคารยุคใหม่ตอบโจทย์ “บ้านหลังที่ 2 ของพนักงาน”

9 กันยายน 2563…เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และใช้เทคโนโลยีหมวดพลังงานในอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่ง SCG Living Solution Business เดินหน้าบริหารและพัฒนาธุรกิจใหม่ ยกระดับสิ่งปลูกสร้างให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานโดยตรง รวมถึงผู้ไปติดต่อใช้งาน

ถ้าเป็นพนักงานบริษัท หลายคนจะบอกว่า “ออฟฟิศเสมือนบ้านหลังที่ 2” ส่วนหนึ่งจะใช้เวลาอยู่ออฟฟิศมากกว่าอยู่บ้าน ผูกพันกับออฟฟิศ ยิ่งในสถาการณ์โควิด-19 ได้ Work from Home แรก ๆ ก็แฮปปี้ดี แต่นานเข้าหลายคนบ่นคิดถึงออฟฟิศ บทบาทของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นอกจากให้ความสำคัญต่อการออกแบบอาคารแล้ว ยังคำนึงถึงอาคารที่ให้สุขอนามัยที่ดี ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการดูแล “คน” ในพื้นที่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน พื้นที่พาณิชย์ หรือที่อยู่อาศัย จะถูกให้ความสำคัญมากขึ้นควบคู่กับเรื่องความยั่งยืนซึ่งมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จุดเปลี่ยนสำคัญของรูปแบบการออกแบบและพัฒนาโครงการทั่วโลก จะคำนึงถึงสุขภาวะ (Well-being) เพื่อให้คนใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ได้อย่างแข็งแรงและมีความสุข

ธาดา เพ็ญชีพ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ,วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเอสซีจี ,ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อาสาฬห์ สุวรรณฤทธิ์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ซ้ายไปขวา) ร่วมเล่าถึง “คุณภาพชีวิตที่ดี” เมื่ออยู่บ้านหลังที่ 2

วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจีพัฒนาแนวคิดและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงให้คำปรึกษาด้านการออกแบบและรับรองมาตรฐานอาคาร พร้อมพัฒนาสินค้า/บริการ และโซลูชั่น เกี่ยวกับ ‘Living’ หรือการใช้ชีวิต ซึ่งได้นำมาต่อยอดธุรกิจเพื่อตอบโจทย์อาคารสิ่งปลูกสร้างทั้งเก่าและสร้างใหม่ ให้กับผู้ใช้งาน ตลอดจนชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มธุรกิจที่ทำการค้าระหว่างธุรกิจ (B2B) อาทิ อาคารสำนักงานให้เช่า, อาคารพาณิชย์, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, โครงการเวลเนสลีฟวิ่งและเฮลท์แคร์, โครงการบ้านจัดสรร และ มหาวิทยาลัย เป็นต้น

ทั้งนี้ แบ่งธุรกิจเป็น 2 ด้านคือ ธุรกิจ SCG Building & Living Care Consulting และธุรกิจ Smart Building Solution

ธุรกิจ SCG Building & Living Care Consulting เป็นธุรกิจบริการให้คำปรึกษาด้านสิ่งปลูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง ไปสู่อาคารที่ลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติในขั้นตอนการก่อสร้างและการใช้งาน รวมไปถึงอาคารที่มีการคำนึงถึงการมีสุขภาวะที่ดี แข็งแรง ส่งผลถึงคนที่อยู่อาศัยในอาคารและชุมชนโดยรอบ และเหมาะสมกับการอยู่อาศัยเพื่อคนทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่จะเป็นกลุ่มประชากรหลักของประเทศ ด้วยบริการให้คำปรึกษาสำหรับการพัฒนาและปรับปรุงแนวทางการก่อสร้างอาคารตามมาตรฐาน ต่าง ๆ ได้แก่

1) บริการให้คำปรึกษาเพื่อขอรับรองมาตรฐานอาคารเขียว (Green Building) ตามมาตรฐาน LEED DGNB และTREES

2) บริการให้คำปรึกษาเพื่อขอรับรองมาตรฐานอาคารเพื่อการมีสุขภาวะที่ดี (Well-Being Building) ตามมาตรฐาน fitwel และ WELL

3) บริการให้คำปรึกษาเพื่อทำอาคารประหยัดพลังงาน ที่มีการวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงาน (Energy Management Service)

4) บริการออกแบบและปรึกษาอาคารเพื่อผู้สูงอายุและคนทุกวัย (Universal Design)

“ในส่วนนี้เราทำงานให้คำปรึกษากับอาคารต่าง ๆ 130 กว่าโครงการ มีทั้งอาคารเก่าที่จะปรับปรุงเพิ่มเติม อาคารใหม่ก็มีตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นก่อสร้าง ซึ่งในการให้คำปรึกษาทางเจ้าของอาคารก็อาจจะไม่ได้ใช้สินค้าของเอสซีจี ในการก่อสร้าง หรือถ้าจะใช้เราก็จะแนะนำสินค้าที่อยู่ในมาตรฐานนั้น ๆ ตามที่ต้องการ โดยการเลือกใช้สินค้าที่เราให้คำปรึกษานั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของอาคารเลย” วชิระชัย ขยายความ

ธาดา เพ็ญชีพ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับรองมาตรฐาน fitwel Version 2.1 – ระดับ 3 ดาว หมวด Single-Tenant Building (อาคารที่เจ้าของโครงการดูแลพื้นที่ทั้ง 100%) ถือเป็นรางวัลด้านการบริหารจัดการอาคารระดับโลกในระดับสูงสุด 3 ดาว ด้วยคะแนนสูงสุดของทั่วโลกในการประเมินรอบปี 2019 ว่า

“ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรามีความมุ่งมั่นที่จะดูแลพนักงานรวมถึงผู้ที่เข้ามาใช้อาคาร โดยการปรับปรุงให้อาคารมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความปลอดภัยและสุขภาวะที่ดีเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของพนักงาน ซึ่ง fitwel คือคำตอบของการบริหารจัดการอาคารให้มีประสิทธิภาพและเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็น Well – being ให้ผู้ใช้อาคาร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องขอขอบคุณทีมที่ปรึกษา SCG Building & Living Care Consulting ที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความมุ่งมั่น ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้คำปรึกษา แนะนำ จนทำให้เราประสบความสำเร็จได้รับรางวัล fitwel ระดับ 3 ดาว ตามที่คาดหวังไว้ในระดับสูงสุด”

 

ด้านธุรกิจ Smart Building Solution เป็นธุรกิจผู้ให้บริการโซลูชั่นงานระบบวิศวกรรมอาคารแบบครบวงจร รูปแบบ System Integrator ส่งมอบโซลูชั่นด้วยเทคโนโลยีตามที่เจ้าของอาคารต้องการ และเชื่อมต่อการทำงานต่าง ๆ ตั้งแต่การให้บริการออกแบบติดตั้งเทคโนโลยีในหมวดพลังงานในอาคาร ปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality) รวมทั้งเทคโนโลยีเพื่ออาคารอัจฉริยะ (Smart Building) ด้วยอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) โดยเฉพาะเทคโนโลยีในส่วนของระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (HVAC: Heating, Ventilation, and Air Conditioning)

“บริการทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราเสาะหามาจากหลายแห่ง รวมทั้งสตาร์ทอัพจากทั้งอิสราเอล จีน และประเทศต่าง ๆ ทำให้ได้เทคโนโลยีเพื่อมาตอบสนองเรื่องพลังงาน และการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร” วชิระชัย อธิบายถึงที่มาของเทคโนโลยีที่ให้บริการ 4 ด้าน

1) Energy WELL Series ระบบที่ช่วยลดพลังงานในการปรับอากาศและปรับปรุงสภาพอากาศในเวลาเดียวกัน ด้วยวิธีการดักจับก๊าซ CO2 และ indoor pollutant มากกว่า 30 ชนิด หมุนเวียนให้อากาศสะอาดเทียบเท่าหรือดีกว่าอากาศภายนอก ซึ่งถือเป็น Game Changer ของวงการ HVAC ที่ได้รางวัล ASHRAE Innovation award product of the year ในปี 2019

2) Energy CARE Series การใช้เทคโนโลยี Digital และ IoT แบบไร้สาย มาช่วยควบคุมเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร

3) INTELL Series การใช้เทคโนโลยี Sensor และ IoT แบบไร้สายกำลังส่งสูง รับส่งสัญญาณ Wireless sensors ในรูปแบบ Real-time เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ บริหารอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4) HYGIENE Series การปรับปรุงและยกระดับคุณภาพอากาศภายในอาคารให้สะอาดจากเชื้อโรค โดยการใช้เทคโนโลยี Bi-polar Ionization System เข้ามาจัดการคุณภาพอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพ ลดเชื้อโรคในอากาศ ทั้งไวรัส แบคทีเรีย หรือฝุ่น PM 2.5 เพื่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของผู้ใช้งานภายในอาคาร

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อาสาฬห์ สุวรรณฤทธิ์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงความร่วมมือกับเอสซีจีทดลองระบบ Energy CARE series ให้กับคณะฯ เป็นการอัพเกรดอาคารเพื่อบริหารห้องเรียน และพลังงานสำหรับระบบปรับอากาศอย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศในห้องเรียนและลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยการควบคุมผ่านระบบออนไลน์ “

ทางคณะฯ ทราบว่าระบบปรับอากาศและการระบายอากาศมักมีสัดส่วนการใช้พลังงานและปลดปล่อยคาร์บอนมากที่สุดในอาคาร โซลูชั่นระบบ Energy CARE Series ที่นำมาใช้ ทำให้เราเห็นถึง loss ที่เกิดขึ้นในตึก โดยเฉพาะ Human loss หรือ loss จากการใช้งานซึ่งสูงมาก ๆ มากถึง 45% หรือคิดเป็นค่าไฟฟ้าที่ลดลง 20 บาทต่อการใช้ห้องเรียน 1 ชั่วโมง ไม่ว่าจะติดตั้งแอร์ที่ประหยัดไฟดีมากแค่ไหน ถ้า Control เรื่อง Human loss ไม่ได้ก็ถือว่าการใช้งานนั้นยังไม่ดีพอ แต่โซลูชั่นนี้สามารถช่วยกำจัดที่ไม่จำเป็นออกไป ช่วยลดค่าไฟให้กับคณะฯ และลดภาระการทำงาน อีกทั้งช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลอาคารทำงานได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งทำให้เราเป็นต้นแบบของ Smart Faculty ที่เตรียมพร้อมและผลักดันคณะฯ สู่โลกแห่งอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องขอบคุณทาง SCG ที่ได้นำเทคโนโลยีระบบนี้เข้ามาตอบโจทย์ความยั่งยืนของทางคณะฯ และมหาวิทยาลัยฯ”

เจ้าของอาคาร ผู้ประกอบการอาจจะต้องนึกถึงทุก Stakeholder รวมไปถึงผู้ใช้อาคารและสังคมโดยรอบ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน อีกทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาคารและสิ่งก่อสร้างในระยะยาว

 

You Might Also Like