2 กันยายน 2562… อาชญากรรมสิ่งแวดล้อมในป่าแอมะซอน (Amazon )เป็นประเด็นหลักของ Aruanas ซีรีย์เรื่องใหม่ของบราซิล
Aruanas ( Sentinels of Nature –ยามของธรรมชาติ) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงภัยคุกคามต่อป่าดิงดิบ ชุมชนพื้นเมืองและสังคมโดยรวม โดยนำภัยคุกคามเหล่านี้เข้ามาให้คนเมืองเข้าใจมากขึ้น
ซี่รี่ย์เรื่องนี้เป็นผลงานของ Globo and Maria Farinha Films co-production ซึ่งนำเอาเรื่องเกี่ยวกับ Greenpeace เข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค ซึ่งขณะนี้กำลังสตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์ม Globoplay ในบราซิล และบนแพลตฟอร์ม vimeo ที่ aruanas.tv ในกว่า 150 ประเทศ
บทซึ่งร่วมเขียนโดย Estela Renner และ Marcos Nisti, Aruanas เน้นให้เห็นอันตรายที่มีมากมายในโลก ของผู้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงชีวิตของตัวเอง กับการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งโลกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป
หนังระทึกขวัญด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของหญิง 3 คนที่จัดตั้งองค์กร NGO ชื่อว่า Aruana ทำการตรวจสอบกิจกรรมน่าสงสัยของเหมืองแร่ที่ดำเนินการในป่าแอมะซอน นักเคลื่อนไหวแต่ละคนค้นพบหลักฐานของบริษัทเหมืองแร่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศดำเนินโครงการที่ผิดกฎหมาย
จุดที่น่าสงสัยนั้น มีทั้งเรื่องเกี่ยวข้อง เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ไม่รู้มาจากที่ไหน การเจ็บป่วยที่หาสาเหตุไม่ได้ การลอบสังหาร และภัยคุกคามต่อคนพื้นเมือง
การเป็นซีรีย์ ผสานกับความมุ่งมั่นในการนำเสนอ เมื่อตัวละครเข้าใกล้การเผยความจริง พวกเขาก็ต้องต่อสู้กับความขัดแย้ง และจิตใต้สำนึกที่มีในใจของพวกเขาเองด้วย
ขณะที่สถานที่นำเสนอ แสดงให้เห็นถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงในรูปแบบที่น่าทึ่ง ผู้ผลิตให้ความเห็นว่า ความตั้งใจแรกเริ่มจริง ๆ แล้ว ไม่ต้องการให้ผู้ชมรู้สึกว่าต้องเป็นผู้ตัดสินผิดชอบชั่วดีแต่อย่างใด
“Aruanas เป็นเสมือนคำเชื้อเชิญให้เราฝันถึงอนาคตที่ยุติธรรมและยั่งยืนมากขึ้น มันเป็นความบันเทิงที่มุ่งไปที่ปัญหาที่โลกสนใจและเป็นประเด็นเร่งด่วน โดยอภิปรายเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าดงดิบ และงานของนักกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก” Maria Farinha Films กล่าวในแถลงการณ์
แม้จะเป็นแค่ซีรีย์ แต่ Aruanas ก็นำเสนอส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในป่าแอมะซอนด้วยเช่น
–ผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อม 57 คนถูกสังหารในประเทศในปี 2560
–ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบราซิล กลายเป็นประเทศอันดับ 1 ในจำนวนนักเคลื่อนไหวที่ถูกฆ่ามากที่สุด
–ในปีพ. ศ. 2561 มีรายงานว่าการทำลายป่าไม้ในแอมะซอน เพิ่มขึ้น 14% ซึ่งเป็นอัตราที่เลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ
“ เราต้องการให้รายการนี้ ทำให้เรื่องสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องที่ครอบครัวคุยกันมากขึ้นตอนทานอาหารค่ำ – ทำให้เป็นหัวข้อพูดคุยในชีวิตประจำวันของชาวบราซิลมากขึ้น” Marcos Nisti ผู้ร่วมสร้างซีรีส์กล่าวกับ The Guardian.
“ นี่ไม่ใช่ปัญหาของคนอื่น แต่เป็นปัญหาของเรา มันเป็นปัญหาสำหรับมนุษย์ทุกคน”
การผลิตรายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ที่มากขึ้น มีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มการรับรู้และความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดของเรา แต่ส่วนใหญ่ – รวมถึง Blue Planet II ของ BBC ของ BBC, Chasing Coral ของ Netflix และ Years’s Living Dangerously ของ Showtime ล้วนนำเสนอในรูปแบบสารคดี
Aruanas เสนอในรูปแบบต่างจากข้างต้น เข้าข่ายเดียวกับโปรดักชั่นขนาดเล็กใน Comedy Serie 2014 ของ Netja’s Okja และ Chipotle “ Farmed and Dangerous” ของ Netflix
“ เราต้องการเข้าถึงหัวใจผู้คน เฉกเช่นที่ว่า เรามักไม่ได้ข้อมูลภาวะโลกร้อนมาตามช่องทางปกติ แต่ได้มาจากการพูดคุยกับคนอื่น ๆ ” Nisti กล่าว
Aruanas แสดงให้เห็นภาพการต่อสู้อย่างต่อเนื่องของป่าดงดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงเวลาของการครอบงำทางการเมืองในบราซิลโดยผลประโยชน์ทางธุรกิจการเกษตร ตามที่ The Guardian ชี้ให้เห็นเซกเตอร์นี้เป็นตัวแทนของพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสภาคองเกรสของบราซิล – กลุ่มชนบท – และในปี 2561 ประเทศที่เป็นพันธมิตรยาวนานกับสหรัฐก็เลือก Jair Bolsonaro ขึ้นเป็นประธานาธิบดี
จากนั้น Bolsonaro เดินตามรอยเท้าของการบริหารของสหรัฐ – นำเสนอแนวทางที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยยกเลิกตำแหน่งเกี่ยวกับการดูแลเรื่อง Climate Change ลดอำนาจของกระทรวงสิ่งแวดล้อม Bolsonaro ให้เหตุผลว่า
“การปกป้องสิ่งแวดล้อมในแอมะซอนขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งประกาศว่าจะไม่จัดสรรที่ดิน แม้แต่เซนติเมตรเดียวให้กับชนเผ่าพื้นเมืองอีกต่อไป”
ในฐานะผู้ร่วมสร้างสรรค์และผู้กำกับ Estela Renner บอกกับ Drama Quarterly ว่า “การทำเหมืองสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่มาก เราคุยกันถึงเรื่องการทำเหมืองทองคำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้ปรอทมากลงไปในแม่น้ำ ทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด – ทั้งแม่น้ำ ดิน และผู้คน”
ซีรี่ย์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงการผลิต เพื่อลดปริมาณขยะ 90% ของชุดทั้งหมดนำเสื้อผ้ากลับมาใช้ใหม่ 47 % ของทีมงานและนักแสดงนำเป็นผู้หญิง ขณะที่ 1 ใน 3 ของนักแสดงมาจากชนพื้นเมือง
ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม Producer ของซีรี่ย์แจ้งว่า 50 % ของรายได้ทางออนไลน์ของ aruanas.tv จะนำไปบริจาคให้กับโครงการใหม่ ๆ ที่ไม่เปิดเผย ซึ่งออกแบบมาเพื่อปกป้องแอมะซอน
Renner บอกกับ Drama Quarterly ว่า ภาคต่อของซีรีย์ เป้าหมายคือการติดตาม NGO และนักเคลื่อนไหว โดยพวกเขาจะศึกษาแง่มุมอื่น ๆ และผู้มีส่วนร่วมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น อุตสาหกรรมน้ำมันและมหาสมุทร งานกำลังคืบหน้าไปใน Season ที่ 2 ซึ่งจะทำเรื่องอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมประเภทอื่นๆ
ที่มา