NEXT GEN

ผลไม้ “เงาะ”ของ BASF ตอบข้อกังวลความงามผู้บริโภคในปี 2563

9 สิงหาคม 2562… บริษัทเคมีของเยอรมัน BASF ออกแบบห่วงโซ่อุปทานที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงผลพลอยได้จากผลไม้คือ “เงาะ”อินทรีย์ เพื่อให้ไม่มีอะไรเหลือทิ้ง

ย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2543 บริษัท เริ่มเป็นหุ้นส่วนกับนักวิจัยในโมร็อกโก และเครือข่ายสตรีที่จัดหา Argan oil ในประเทศ ด้วยวิธีผ่านการใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ใบไม้ น้ำมันจากเมล็ด และเยื่อในผลไม้

BASF เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ได้รับจากต้น Argan นอกจากนี้โครงการดังกล่าวส่งผลให้มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค นำไปสู่การสร้างงานกว่า 1,000 ตำแหน่งให้แก่สตรีในพื้นที่ชนบท ให้มีสภาพการทำงานที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันการจัดหาส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพของ BASF ก็ดีขึ้นด้วย

เกือบ 20 ปีต่อมา ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง จากโครงการ Argan ที่กล่าวได้ว่าเป็น Sustainable Program BASF Care Creations ได้ออกแบบโครงการที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมใหม่ โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีมายาวนานในเวียดนาม

ขณะทำงานกับพันธมิตรรายนี้ โรงงานแห่งหนึ่งดึงดูดความสนใจของบริษัท เป็นผลิตภัณฑ์จากเงาะที่เรียกว่า Nephelium Lappaceum ซึ่งเติบโตบนต้นไม้ที่สูงถึง 30 ถึง 36 ฟุต

BASF มีฟาร์มเงาะสองแห่งในเวียดนาม และในความเป็นจริง พวกเขาก็เป็นบริษัทแรกที่ผลักดันให้สวนผลไม้ได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์ในประเทศแถบเอเชียด้วย การวางแผนนี้เริ่มขึ้นในปี 2558 และเปิดตัวโครงการจริง ๆ เมื่อไม่นานมานี้

“จากมุมมองทางการตลาด เงาะเป็นผลไม้เอเชียที่แปลกใหม่ น่าสนใจ เราสามารถจัดหามันได้ง่ายไม่มีปัญหาใด ๆ และด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถให้ข้อมูลเรื่องออร์แกนิก เรื่องทางสังคม และเรื่องการสนับสนุนผู้ผลิตแก่ลูกค้าของเรา ทุกอย่างจึงรวมกันกลายเป็นเรื่องสมบูรณ์แบบ” Philip Ludwig ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการทางเทคนิค กลุ่มงาน Personal Care Bioactives, BASF.กล่าว

ในเอเชีย เงาะ ถูกเรียกว่า “ผลไม้ขนดก” เป็นผลผลิตที่ได้รับความนิยม นอกจากความอร่อยแล้ว เงาะยังมีประวัติด้านการใช้งานด้านสุขภาพในภูมิภาค เปลือกประกอบด้วยสารประกอบที่มีประโยชน์มากมายที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และคนเวียดนามยังกินใบจากต้นเงาะเป็นอาหารเสริม

หลังจากทำความเข้าใจกับเงาะลึกซึ้งยิ่งขึ้น BASF Care Creations ใช้ผลพลอยได้จากผลไม้ เพื่อพัฒนาส่วนผสมเครื่องสำอางปลอดสารพิษที่ได้รับการรับรองจาก COSMOS 3 ชิ้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธีม Clean Beauty  2 ชิ้นสำหรับผิว และ 1ชิ้นสำหรับผม:

Nephydrat เป็นสารสกัดจากเปลือกเงาะ ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวหนัง นอกจากนั้น พลังบวกจากส่วนผสมยังให้ความชุ่มชื้นที่ลึกกว่า หลังจากผ่านไป 14 วัน ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จะเห็นผิวที่ชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นและผิวที่สดชื่นขึ้น
“หากคุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังมองหา พวกเขามักจะมองหาส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นที่ดี Nephydrat จึงตอบโจทย์ทุกความต้องการที่ว่านี้” Ludwig กล่าว

Nephoria มาจากสารสกัดจากใบผลไม้ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวโดยการกำหนดเป้าหมายของจุดปลายที่เรตินอลส่งผลกระทบ Nephoria สนับสนุนการสังเคราะห์คอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยพื้นฐานเมื่ออายุคนเราเพิ่มขึ้นก็จะสูญเสียความหนาแน่นของผิว ความกระชับและความยืดหยุ่น ในร่างกาย Nephoria จะช่วยเผยผิวที่ดูอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย

“เราจะไม่ใช้ผลไม้ที่กินได้เลย ผลไม้ที่กินได้จะกลายเป็นอาหาร แต่เราใช้ผลพลอยได้จากผลไม้หรือต้นไม้ ดังนั้นใบไม้  ใน Nephoria จึงทำหน้าที่เป็นทางเลือกตามธรรมชาติของพืชเพื่อเรตินอล  เราต้องการสิ่งที่มีประสิทธิภาพเหมือนกับเรตินอล ขณะเดียวกัน ต้องอ่อนโยนต่อผิว”

สิ่งที่นำมาใช้ในการผลิต ใช้คำทางการว่า Rambuvital เป็นสารสกัดจากเมล็ดเงาะ ช่วยปกป้องเส้นผมจากมลภาวะและเพิ่มพลังให้เส้นผม ให้ความชุ่มชื้นกับหนังศีรษะ ในร่างกาย หนังศีรษะนั้นมีความชุ่มชื้นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายในหนึ่งเดือน เส้นผมมีสุขภาพดีและเงางามขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมซึ่งเกิดขึ้นจากที่นี่ คือการป้องกันมลภาวะและกำจัดกลิ่น ซึ่งการกำจัดกลิ่นก็เป็นข้อกล่าวอ้างที่ดี เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมจำนวนน้อยมากที่มีคุณสมบัติกำจัดกลิ่น รวมทั้งผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติด้วย”

ปัจจุบัน ผู้บริโภคกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในเครื่องสำอางของพวกเขา และส่วนผสมเหล่านั้นต้องมีแหล่งที่มาในลักษณะที่ไม่เป็นอันตรายต่อชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม โปรแกรมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเงาะของ BASF ให้โอกาสแก่แบรนด์ในการบอกเล่าเรื่องราวของส่วนผสมเครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีการจัดหาอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากการปรับปรุงผลพลอยได้จากผลไม้ เพื่อให้ไม่มีอะไรเหลือทิ้ง และใช้เป็นส่วนผสมความงามที่เป็นประโยชน์สามอย่าง บริษัทยังทำให้เกิดการจัดหาอย่างยั่งยืน เกษตรกรที่คัดเลือกด้วยมือของ BASF มีความมุ่งมั่นในการทำเกษตรอินทรีย์ตลอดจนความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการยกระดับผลพลอยได้จากเงาะ บริษัทยังสนับสนุนการค้าที่รับผิดชอบต่อสังคมด้วย
“ผลประโยชน์ทางสังคมอย่างหนึ่งของโปรแกรมนี้ คือเรากำลังฝึกอบรมผู้คนเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ เราให้ค่าจ้างสูงกว่าการจ้างงานปกติ รวมถึงสวัสดิการอื่น ๆ เช่นอาหารฟรี ประกันสุขภาพและความปลอดภัย ผมคิดว่าท้ายที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผู้บริโภคเรียกร้อง และต้องการ ดังนั้นสิ่งนี้จึงเติมเต็มความต้องการของตลาด”

โครงการใหม่เกี่ยวกับเงาะของ BASF ตอบข้อกังวลด้านความงามของผู้บริโภคในปี พ.ศ.2563 : ผลักดันการพัฒนาเครื่องสำอางในอนาคตด้วยการยกระดับการใช้ประโชน์จากส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ ขณะเดียวกันก็สร้างความมั่นใจว่าจะเกิดผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมเชิงบวกตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain)

Cr.เนื้อหา/ภาพ

 

 

You Might Also Like