2 สิงหาคม 2562…เมื่อเวลาผ่านไป มีบริษัทจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังหลีกลี้หนีจากการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง และแสวงหาทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น เช่นเดียวกับ บริษัท Coca-Cola และ PepsiCo ได้ประกาศชัดถึงการออกจากสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก
ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่ม ได้ประกาศการตัดสินใจเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีแถลงการณ์ของกลุ่ม Greenpeace ในเรื่องดังกล่าว
“บริษัทเหล่านี้ย่อมเข้าใจว่า พวกเขาไม่สามารถพูดต่อสาธารณชนได้ว่า พวกเขาต้องการที่จะยุติมลพิษด้านพลาสติก ขณะที่อีกด้านหนึ่งยังให้การสนับสนุนทางการเงินแก่สมาคมที่สนับสนุนการพึ่งพาเกี่ยวกับพลาสติกอย่างต่อเนื่อง” John Hocevar ผู้อำนวยการ USA Oceans Campaign ของ Greenpeace กล่าว
“นี่เป็นชัยชนะสำหรับทุกคนที่พูดถึงเรื่องนี้ และขอให้ Coca-Cola และ PepsiCo นำเงินของพวกเขาไปใช้ในลู่ทางที่เหมาะสม”
Greenpeace กำลังรณรงค์อย่างแข็งขัน ภายใต้แคมเปญ #BreakFreeFromPlastic ให้บริษัทต่างๆ โดยร่วมกับนักลงทุนและองค์กรต่างๆ ซึ่งรวมถึง Walden Asset Management, As You Sow, เซียร่าคลับ และ องค์กรอย่าง The Last Beach Cleanup ในฐานะ NGO ที่ได้เรียกร้องให้ บริษัท ต่าง ๆ รวมถึง PepsiCo และ Coca-Cola ต่อต้านการใช้พลาสติก
นอกจากนั้น Greenpeace ยังเรียกร้องให้สมาคมใช้กลุ่มแนวร่วมเรียกว่า American Progressive Bag Alliance (APBA) และทำงานร่วมกับ American Exchange Legal Council (ALEC) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายสาธารณะที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในช่วงเวลาหนึ่งๆ รวมตัวกันภายหลังแรงกดดันจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ ) – เพื่อผลักดันให้สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐห้ามการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งทั่วประเทศ จนถึงขณะนี้ 15 รัฐได้ผ่านร่างกฎหมายเหล่านี้ไปแล้ว
จากการที่ บริษัท ออกจากกลุ่มโฆษก Coca-Cola กล่าวว่า “ เราถอนตัวออกจากสมาคมเมื่อต้นปีนี้ เนื่องจากจุดยืนของสิ่งที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับภาระผูกพันและเป้าหมายของเรา”
ขณะที่โฆษกหญิงของ PepsiCo กล่าวว่า สถานะการเป็นสมาชิกของ PIA(Plastics Industry Association) จะสิ้นสุดลงตอนปลายปี “เราไม่ได้มีส่วนร่วมในงานหรือการสนับสนุนนโยบายใดๆของ PIA ซึ่งสถานะสมาชิกของเราจะสิ้นสุดลงปลายปีนี้”
Cr.ภาพ Sustainable Brands
PIA ตกเป็นเป้าโจมตีของนักสิ่งแวดล้อม จากการวิ่งเต้นเรื่องต่อต้านการใช้ถุงพลาสติกในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลของ APBA พยายามโต้แย้งว่า พลาสติกแบบดั้งเดิม มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับถุงแบบอื่น ๆ เพราะใช้พลังงานน้อยกว่า 70% และใช้น้ำน้อยกว่าถึง 96% เมื่อเทียบกับถุงกระดาษ สมาคมแถลงว่าการถอนตัวของ Coca-Cola และ PepsiCo เป็นผลมาจากแรงกดดันจาก Greenpeace
“ นี่ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะ Consumer Brands เป็นส่วนสำคัญในการทำให้คำมั่นสัญญาด้านความยั่งยืนเป็นจริง โดยทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน” โฆษกหญิง PIA กล่าว
“ ชุมชนท้องถิ่นควรมีสิทธิ์ในการปกป้อง และรักษาสภาพแวดล้อมของพวกเขาโดยไม่มีองค์กรธุรกิจเข้ามาแทรกแซง” แจนเดลล์ ผู้ก่อตั้งองค์กร The Last Beach Cleanup กล่าว
“ ถึงเวลาแล้วสำหรับบริษัทที่อ้างว่าใส่ใจเกี่ยวกับการลดมลพิษพลาสติก ที่จะออกมายืนหยัด และปฏิเสธการล็อบบี้ ของสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อจำกัดธุรกิจถุงพลาสติกในท้องถิ่น และกฎหมายเกี่ยวกับภาชนะบรรจุ”
ขณะที่ Greenpeace บอกว่า ทั้ง Coca-Cola และ PepsiCo เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุด ที่ทำให้เกิดมลพิษเรื่องพลาสติกทั่วโลก อีกด้านหนึ่ง ทั้งสอง บริษัทได้ตั้งเป้าหมายลดการใช้พลาสติกด้วย เรื่องแรก Coca-Cola มีเป้าหมายสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 50 %ในปี 2030 ส่วน PepsiCo ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 25 % ภายในปี 2568 และทั้งสองฝ่ายกำลังพัฒนาโซลูชั่นอื่น ๆ เพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง และของเสีย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Coca-Cola ได้ร่วมมือกับ Loniqa Technologies ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลของบริษัท ในการแยกขยะ PET ที่ยากต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ ให้กลายเป็นวัตถุดิบ Food Grade คุณภาพสูง ขณะที่ PepsiCo จับมือกับ L’Oréal, Nestlé Waters, Suntory Beverage & Food Europe และ Carbios เพื่อขยายการใช้เทคโนโลยีการรีไซเคิลพลาสติกด้วยเอนไซม์ตัวแรกของโลก
ยิ่งกว่านั้น PepsiCo เพิ่งพัฒนาแพลตฟอร์มไฮเดรชั่นผ่านมือถือ โดยไม่ต้องใช้ขวด ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น สำหรับน้ำดื่ม และเครื่องดื่มไร้น้ำตาล และน้ำตาลน้อย ซึ่งเป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้นทั้ง PepsiCo และ Coca-Cola กำลังทำงานเพื่อสนับสนุนการรีไซเคิล และโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก
กล่าวได้ว่า ช่วงที่ผ่านมาเป็นห้วงเวลาที่ค่อนข้างหนักหนาสาหัสทีเดียว สำหรับบริษัทจำนวนมาก ที่ต้องขึ้นมายืนหยัดต่อสู้ ใช้พลังของพวกเขา ในทางที่สร้างประโยชน์ต่อนโยบายที่จะส่งผลโดยตรงต่อความเป็นอยู่ที่ดีของธุรกิจ รวมไปถึงต่อสังคมด้วย โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน บริษัทอย่าง ฟอร์ด, BMW, ฮอนด้า และโฟล์คสวาเก้น (VW) ประกาศว่าพวกเขาได้บรรลุข้อตกลงหลักกับรัฐแคลิฟอร์เนียเรื่องมาตรฐานการปล่อยควันดำใหม่ เป็นทางเลือกใหม่ ของมาตรฐานรถยนต์สะอาด ที่สามารถใช้ได้ทั่วประเทศ
ที่มา
