22 ตุลาคม 2563…Grab Green Wheels X SWAG รถพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งเป้าลดคาร์บอน 100 ตันภายใน 1 ปี
1 ใน 50 พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บชื่อ จุมพล กฤษณวรรณ ทำอาชีพนี้เลี้ยงครอบครัว มาแล้ว 2 ปี มีโอกาสได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ “Grab Green Wheels X SWAG: รถพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ” ซึ่งเวลาเกือบ 1 เดือนที่ได้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทำงานตลอด 30 วันในแต่ละเดือน เขาพบว่า
1.ประหยัด
2.ปลอดภัย
3.ได้ช่วยสิ่งแวดล้อม
“ปกติในการทำงานทุกวันผมจะต้องเติมน้ำมัน 100-200 บาทต่อวัน วิ่งในระยะทางประมาณ 150-200 กิโลเมตร ทุกวัน แต่เมื่อมาใช้มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า ซึ่งจะมีแบตเตอร์รี่ให้ 2 ก้อน 1 ก้อนจะวิ่งทำงานได้ประมาณ 60-80 กิโลเมตร โดยแบตฯก้อนหนึ่งเวลาชาร์จไฟที่บ้านจะจ่ายค่าไฟ 8-10 บาท นอกจากนี้แบตฯยังูกออกแบบให้ชาร์ตที่รถได้เลย เมื่อคำนวนตัวเลขออกมาก็ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มาก เรื่องต่อมาความปลอดภัย มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าจะทำความเร็วได้ 55-60 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยมาก ความเร็วขนาดนี้ทำให้เราต้องขี่ในเลนซ้ายตลอดเพื่อความปลอดภัย ซึ่งผมมีลูกสาวอยู่ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ และสุดท้ายการใช้มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าเป็นการช่วยลดมลพิษทางอากาศอย่าง PM2.5 ซึ่งเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย”
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของแกร็บ ถือว่าประเทศไทยเป็นรายแรกที่นำมาใช้ในธุรกิจก่อนประเทศอื่น ๆ ที่ผ่านมาแกร็บสิงคโปร์และฮ่องกงเลือกจะใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ ซึ่งการที่ประเทศไทยเลือกที่จะใช้รถจักรยายนต์ไฟฟ้านำร่อง ก็เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจรับ-ส่งอาหารในประเทศ
เมธิณี อนวัชกุล ผู้อํานวยการธุรกิจแกร็บไบค์และศูนย์อบรมสาขาย่อย แกร็บ ประเทศไทย และเจนสัน เชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซแว็ก อีวี จำกัด ร่วมกันแสดงมุมมองต่อโครงการ “Grab Green Wheels X SWAG: รถพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ” ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกันคือ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้มากที่สุด และช่วยให้พาร์ทเนอร์แกร็บลดค่าใช้จ่าย มีความปลอดภัยระหว่างการทำงานมากขึ้น
โครงการ “Grab Green Wheels X SWAG: รถพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ” จะสนับสนุนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 50 คันให้กับพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บฟู้ด 50 คน ที่มีผลงานดีเด่นจากจากเรตติ้ง 4.8 ดาวขึ้นไป ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายในระยะเวลาใน 1 ปี โดยในช่วงเปิดตัวโครงการฯ แกร็บจะคัดเลือกพาร์ทเนอร์คนขับจำนวน 20 คน ก่อนจะขยายจำนวนให้ครบทั้งหมดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 โดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่จะสนับสนุนแก่พาร์ทเนอร์คนขับ คือ รุ่น SWAG EV Type X* โดยพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บแต่ละคนจะได้รับแบตเตอรี 2 ก้อน ซึ่งสามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 70 กิโลเมตรต่อก้อนต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (รวม 140 กิโลเมตร) ใช้เวลาชาร์จไฟ 2 ชั่วโมง 35 นาที และสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุด 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งรถจักรยายนต์รุ่นนี้ใช้แบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน จากซัมซุง 60V 26AH (10 กิโลกรัม) รับประกันแบตเตอร์รี่ 2 ปี หรือ 1,000 รอบชาร์จ เครื่องยนต์ 2 ปี เป็นต้น
โครงการนี้คาดว่าจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 100 ตัน ภายในระยะเวลา 1 ปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ราว 12,500 ต้น** ต้นไม้ 1 ต้นสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 8 กิโลกรัมต่อปี (อ้างอิง ข้อมูลจาก องค์การจัดการบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน))
เมธิณีกล่าวในท้ายที่สุดว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกาศความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันให้เกิดการรณรงค์และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอื่นๆ ภายใต้โครงการ Grab Green Wheels ในอนาคต ภายใต้พันธกิจ Grab For Good และจะเป็นตัวช่วยผลักดันให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างต่อไป