29 เมษายน 2563….ความพยายามในการหาทางออก แก้ไขปัญหาโรคระบาดได้นําบุคคล สถาบัน ชุมชนรัฐบาล รวมทั้งสังคมมาร่วมมือกัน กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
CP Gurnani, MD และ CEO บริษัท Tech Mahindra ให้ความเห็นว่า เรื่องแรกๆ ที่เกิดขึ้น คือ ความรู้สึกของการมองในแง่ดี ที่ตามมาด้วยความเชื่อมั่นว่า ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูง และความฉลาดของมนุษยชาติ จะช่วยให้ประชากรทั่วโลกต่อสู้ และเอาชนะการโจมตีของไวรัสนี้ได้ในที่สุด
แม้อาจมีผู้โต้แย้งว่า น่าจะใช้เวลาอีกพอสมควรเลยกว่าวัคซีนรักษาไวรัสนี้จะใช้ได้จริง ขณะเดียวกันระบบทางเลือก และวิธีการที่พัฒนาไม่เพียงแต่ช่วยจัดการวิกฤตการณ์ในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังสร้างวิธีการใหม่ของการทําธุรกิจในอนาคตด้วย
ผลกระทบระดับโลก และสิ่งที่ประเทศต่างๆที่กําลังทําเพื่อรับมือ COVID-19 ได้สร้าง Benchmark 2-3 อย่างขึ้นมา ทำให้หลายๆประเทศมีทางเลือกสําหรับการทำการเกษตร การผลิต และอุตสาหกรรมอื่น ๆ หากต้องรับมือวิกฤตอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ ซึ่งทุ่มเทความพยายามในการติดตามติดต่อ รวมถึงใช้อํานาจทางกฎหมายสั่งให้ประชาชนกักตัว
ในอิตาลี ประชากร 60 ล้านคนทั้งหมดของประเทศ ถูกจํากัด ไม่ให้เดินทางออกจากบ้าน ยกเว้นการต้องรักษาอย่างเร่งด่วน หรือมีเหตุด่วนเกี่ยวกับการทํางาน มีคำสั่งปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย รวมทั้งงดการชุมนุมสาธารณะ จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง
ในทํานองเดียวกัน อินเดีย, สหรัฐอเมริกา, จีน, สหราชอาณาจักรและแอฟริกาได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นปึกแผ่นในช่วงเวลาของวิกฤตทั่วโลกนี้ พวกเขาล้วนศึกษา สํารวจทางเลือกของกระบบ และกระบวนการ เพื่อให้แน่ใจว่า ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
การบริการด้านสุขภาพ (Healthcare)
หน่วยงานของสหรัฐฯกําลังกระตุ้นให้คนที่รู้สึกไม่สบาย ให้รายละเอียดอาการเบื้องต้นกับแพทย์ โดยใช้วิดีโอคอลล์หรือโทรศัพท์เป็นหลักก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการมารอเป็นเวลานานที่โรงพยาบาล
ลองนึกภาพความสะดวกที่จะเกิดขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศอย่างอินเดีย ที่ต้องเดินทางจากบ้านซึ่งอยู่ไกลมาก เพื่อให้มาถึงสถานบริการสุขภาพเฉพาะทาง
ปัจจุบันการรักษาส่วนใหญ่ในอินเดียใช้ระบบ Telemedicine ซึ่งสหรัฐอเมริกากำลังใช้ระบบนี้จัดการกับ COVID-19 และเมื่อขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายในอนาคต 5G ก็จะช่วยให้ระบบ Telemedicine ในอินเดียเติบโตอย่างมาก นอกจากนี้ยังจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการตั้งทีมงานเบื้องหลัง (ฝ่ายสนับสนุน) ให้แก่ประชากรซึ่งอาศัยในพื้นที่ยากแก่การเข้าถึง รวมถึงยังสร้างโอกาส สร้างงานอีกด้วย
การศึกษา (Education)
รัฐ Kerala ในอินเดีย แถลงว่า จะให้แบนด์วิดธ์ 5G เป็นพิเศษทุกพื้นที่ของรัฐ เพราะคาดว่า ประชาชนต้องใช้ทํางานและเรียนออนไลน์มากขึ้นหลายเท่าท่ามกลางการระบาดของไวรัส
ในสหรัฐ โรงเรียนในทุกเขตของรัฐนิวเจอร์ซีย์ เตรียมการสําหรับการเรียนออนไลน์กรณีที่โรงเรียนต้องปิด เพื่อนร่วมห้องทุกคน ต้องทดสอบระบบในสัปดาห์สุดท้ายที่บ้านเพื่อการเรียนรู้ออนไลน์
ไม่ต้องสงสัยใด ๆ ว่า E-Learning จะเป็นอนาคตใหม่ของการศึกษา แม้ผลกระทบของ COVID-19 จะลดลงในอนาคตก็ตาม
การเกษตร (Agriculture)
ในส่วนอื่น ๆ ของโลก มักมีหุ่นยนต์ทํางานฟาร์มอยู่แล้ว เพื่อเอาชนะการระบาดของ COVID-19 หุ่นยนต์ได้เข้ามาแทนที่หลายๆกิจกรรม ในการเกษตร 5G ช่วยให้การพัฒนา Value-Chain ทั้งหมดก้าวหน้า
เริ่มจากจากการเกษตรที่แม่นยํา ระบบชลประทานอัจฉริยะ การติดตามการเติบโตของพืช การจัดการปศุสัตว์ เทคโนโลยี 5G ช่วยตอกย้ำการขยายและเร่งการเชื่อมต่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเกษตรกร นอกจากนั้น ยังมีเรื่องการปรับปรุงการวินิจฉัยของสัตวแพทย์ การป้องกันพืช การลดการใช้ปุ๋ย และระบบอนุรักษ์น้ํา
การทํางานนอกออฟฟิศ
มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด ช่วงเวลาที่ทุกคนต้องอยู่กับ COVID-19 มีการยอมรับของสังคมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าสังคม ทํางาน และการสื่อสาร แต่การเปลี่ยนแปลงสําคัญที่เห็นได้ชัดแล้ว คือ ‘ที่ทํางานแห่งอนาคต’ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆปรับ เพื่อรองรับความคิดใหม่ ๆ เทคโนโลยี และบริหารจัดการการทํางาน
CP Gurnani, MD และ CEO บริษัท Tech Mahindra เพิ่มเติมว่า นอกจากส่งเสริมให้พนักงานทํางานที่บ้านแล้ว บริษัทยังได้งดกิจกรรมภายในทั้งหมด ซึ่งต้องมีการชุมนุมคนจำนวนมากออกไป และสนับสนุนให้ทุกคนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเช่น Tele Presence และการประชุมทางวิดีโอ
ทั้งนี้ มีรายงานประมาณการมูลค่าอุตสาหกรรมการประชุมทางวิดีโอขององค์กร ก่อนการระบาดของโรค COVID – 19 ว่าภายในปี 2023 จะอยู่ที่ 4.48 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ตอนนี้ได้ถึงมูลค่าที่ว่านั้นแล้ว นี่คือตัวบ่งชี้ชัดเจนของแนวโน้มใหม่ที่สนับสนุนการทำงานนอกออฟฟิศ
สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้น เพราะเรากําลังอยู่ใน “ วิกฤตซึ่งเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน” ที่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคล การปฏิบัติที่เกิดขึ้นใหม่จําเป็นมากสําหรับการรับมือการระบาด การจัดการความกังวลของพนักงานและลูกค้า.
อย่างไรก็ตาม ในที่สุด เรื่องนี้จะช่วยให้เราสามารถปรับลำดับการให้ความสําคัญของชีวิต วิธีการใช้ชีวิตการทํางาน และให้คำจำกัดความของสิ่งที่เป็น New Normal ช่วยให้เห็นอนาคตที่ต่างจากเดิมชัดขึ้น แต่ทุกแนวทางที่จะเกิดขึ้นยังคงเน้นความสําคัญของการสร้างโลกที่ยั่งยืน มุ่งไปที่การดูแลสุขภาพและสุขอนามัยทั่วไป ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีช่วยให้วิธีการทํางานและการใช้ชีวิตใหม่ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ที่มา