15 พฤษภาคม 2563… จังหวัดนนทบุรี และสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี จับมือ เอสซีจี พร้อมรับมือมาตรการผ่อนปรน ป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำของไวรัส โควิด-19 หลังเปิดเมือง
ด้วย ONLINE CLINIC บริการทางการแพทย์ออนไลน์แบบครบวงจร
สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นายแพทย์พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล” ระหว่างจังหวัดนนทบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และเอสซีจี
สุจินต์ ยอมรับว่าส่วนใหญ่ผู้ที่มาตรวจคัดกรองโควิด-19 ที่โรงพยาบาล ต้องมาเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยไม่จำเป็น
“ทางจังหวัดนนทบุรีและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ จึงมีโครงการริเริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับประชาชนที่เข้ารับการตรวจ และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน”
การนำโมบายแอปพลิเคชัน ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับคัดกรอง และดูแลรักษาคนไข้ โควิด-19 ผ่านทางออนไลน์ มาใช้กับเครือข่ายโรงพยาบาลในจังหวัด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ โควิด-19 ของผู้เข้ารับการตรวจและบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างขั้นตอนการวินิจฉัยและรักษาโรคโดยไม่จำเป็น อีกทั้งช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น รวมถึงช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการดูแลและติดตามอาการของคนไข้จนรักษาหายขาด
นายแพทย์พนัส กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมให้กับโรงพยาบาลในสังกัดสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี รวมถึงประชาชนในพื้นที่ และการสร้างให้เกิด New Normal ว่า
“การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเข้ารับบริการทางการแพทย์และวิธีการในการดูแลรับมือคนไข้ของโรงพยาบาล ด้วยการนำออนไลน์แอปพลิเคชันเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความรวดเร็ว ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น อีกทั้งช่วยให้โรงพยาบาลสามารถติดตามดูแลคนไข้ได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้สามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย”
แอปพลิเคชัน ONLINE CLINIC ซึ่งทางเอสซีจี โดยหน่วยงาน Living Solution ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์พัฒนาขึ้น ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแล้วเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่สงสัยว่าตนติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ โดยสามารถทำแบบประเมินตนเอง รวมถึงพูดคุยกับแพทย์หรือพยาบาลเพื่อประเมินความเสี่ยงผ่านวิดีโอคอล และจองคิวเพื่อเข้ารับการตรวจ หากตรวจแล้วพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงก็จะมีการเชื่อมต่อการรักษาตัวกับโรงพยาบาลใกล้บ้านที่เลือกรับบริการได้ทันที
“ข้อมูลที่เราได้มาเหมือนกันจากการพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลคือ เมื่อเริ่มสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ จะมี Flow ที่คล้ายกัน ซักประวัติ เช็คประวัติ ประเมิณความเสี่ยง ได้มีโอกาสพูดคุยกับหมอผ่านทางแอปฯ ก่อน และสุดท้ายก็มาตรวจ ที่โรงพยาบาล ในกระบวนการต่าง ๆ บนแอปฯ ONLINE CLINIC ช่วยลดจำนวนคนที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อเริ่มต้นตั้งแต่ซักประวัติ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ค่อนข้างมาก”
วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ขยายความต่อเนื่องว่า แม้ว่าแอปฯ ONLINE CLINIC จะมีการใช้งานจำนวนมาก แต่ระบบจะมีความเสถียรรองรับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แอปฯ ONLINE CLINIC จะเริ่มต้นสำหรับโรงพยาบาลในสังกัดของสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลปากเกร็ด โรงพยาบาลบางกรวย โรงพยาบาลบางบัวทอง โรงพยาบาลบางบัวทอง 2 โรงพยาบาลบางใหญ่ โรงพยาบาลไทรน้อย และศูนย์บริการการแพทย์นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เอสซีจีได้ทำงานกับบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างที่โควิด-19 ระบาดเมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมา ขณะเดียวกันทางจังหวัดก็มีความประสงค์ที่จะดำเนินการการใช้ ONLINE CLINIC ทั้งจังหวัด
“ในการใช้ แอปฯ ONLINE CLINIC ไม่จำเป็นต้องทำทั้งจังหวัด แต่หากโรงพยาบาลมีความพร้อมก็สามารถนำแอปฯ ONLINE CLINIC ไปใช้ในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เลย” วชิระชัย กล่าวในท้ายที่สุด