17 ธันวาคม 2561…นายจ้างกว่า 170 บริษัท ครอบคลุมสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกว่า 300,000 คน ส่งเสริมลูกจ้างของตนให้มีเงินใช้หลังเกษียณอย่างเพียงพอ ไม่ใช่ “แก่แล้วจน”
ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หวังใช้ประโยชน์จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างเต็มที่ ภายใต้แนวคิด “ออมเต็มพิกัด จัดแผนเป็น เห็นเงินพอ”
รพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า โครงการ “บริษัทเกษียณสุข” มุ่งสนับสนุนนายจ้างช่วยให้ลูกจ้างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีหลังเกษียณ ผ่านกลไกการออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยนายจ้างมีบทบาทให้ความรู้แก่ลูกจ้าง กระตุ้นให้เกิดการออม และสร้างองค์ประกอบที่เหมาะสมเพื่อช่วยลูกจ้างให้ “ออมเต็มพิกัด จัดแผนเป็น เห็นเงินพอ” ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่มีนายจ้างสนใจสมัครเข้าร่วมกว่า 170 ราย* ครอบคลุมสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกว่า 3 แสนคน เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในตอนแรกที่ 100 ราย
“เราพบปัญหาว่ามีสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกว่าร้อยละ 60 ได้เงิน ณ วันเกษียณ ไม่ถึง 1 ล้านบาท ขณะที่ผลงานวิจัยระบุว่าเงินขั้นต่ำสุดที่ควรมี เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้หลังเกษียณคือ 3 ล้านบาท และสมาชิกไม่รู้ว่าจะต้องสะสมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อให้เพียงพอใช้จ่ายหลังเกษียณ ทำให้ออมน้อย เริ่มออมช้า และไม่เลือกหรือไม่มีทางเลือกในนโยบายการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากพอที่จะทำให้เงินออมเติบโตจนถึงระดับเพียงพอสำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณได้”
ปัจจุบันสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากกว่าร้อยละ 80 ยังคงเลือกนโยบายการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำหรือลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก ซึ่งอาจทำให้มีเงินไม่พอใช้สำหรับชีวิตหลังเกษียณ
เรื่องนี้ “นายจ้าง” จึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุด ที่จะช่วยสร้างความตระหนักด้านการออมเพื่อการเกษียณโดยกระตุ้นให้ลูกจ้างสะสมเงินเต็มสิทธิร้อยละ 15 ของเงินเดือน มีแผนการลงทุนให้เลือกหลากหลาย รวมถึงมีแผนแบบสมดุลตามอายุ (Life Path) ที่ปรับสัดส่วนการลงทุนอัตโนมัติตามช่วงอายุของสมาชิกไว้รองรับด้วย
สิ่งที่สำคัญคือ นายจ้างต้องให้ความรู้แก่ลูกจ้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเลือกแผนการลงทุนของลูกจ้างเหมาะสมกับเป้าหมายเกษียณของตนเอง และบริษัทจัดการลงทุนที่บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะช่วยให้ข้อมูลและนำเสนอทางเลือกแผนการลงทุนที่หลากหลายและเหมาะสมกับเป้าหมายเกษียณมากที่สุด และสุดท้ายจะประเมินผลเพื่อประกาศเกียรติคุณแก่สมาชิกตามความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการต่อไป
มาดูว่า 170 บริษัท ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2561 มีใครบ้าง คลิกที่ภาพเพื่อภาพขยายใหญ่
เนื้อหาเกี่ยวข้อง