22-23 กุมภาพันธ์ 2563…สมาชิกกลุ่ม #SDPerspectivesChallenges แชร์ข้อมูล Sharing Economy เป็นจริงได้แค่ไหน ในเมื่อทุกคนยังต้องการมีทรัพย์สินของตัวเอง แต่ Wellington เมืองหลวงของ New Zealand ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้สำหรับ Jump Scooter
สกูตเตอร์ที่ใช้เท้าถีบกับพื้นและมีมอเตอร์ช่วยผ่อนแรง (Jump Scooter) เป็นวิธีเดินทางยอดฮิตในเมืองที่มีเนินเขามากมายแห่งนี้ และ Uber บริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นสำหรับเรียกแท็กซี่รายใหญ่ก็ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด โดยให้บริการ Jump Scooter ให้เช่าที่จอดไว้แทบจะทุกแห่งในเขตเมือง
วิธีการใช้งานแสนง่าย เพียงเปิดแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ระบบจะมองหา Jump Scooter ที่ว่างอยู่ใกล้ ๆ พร้อมบอกว่ามีไฟฟ้าเหลือในแบตเตอรี่มากน้อยแค่ไหน วิ่งได้ไกลเท่าไหร่ ถ้าพอใจก็รีบกดจองแล้วเดินตามแผนที่ซึ่งแสดงในมือถือไปรับรถได้เลย
เมื่อเดินมาถึงที่รถจอดอยู่ สิ่งที่ต้องทำก็แค่ยกมือถือขึ้นสแกน QR Code ซึ่งติดอยู่กับรถเพื่อปลดล็อค เท่านี้ Jump Scooter ก็จะเป็นของคุณที่จะไถไปไหนก็ได้ตามใจ เมื่อถึงที่หมายก็จอดทิ้งไว้พร้อมกดแอปฯ แจ้งจบการใช้ ระบบจะหักเงินจากบัตรเครดิต เป็นอันเสร็จพิธี รถคันนี้ก็จะว่างให้คนอื่นมาใช้บริการต่อไป ขอแค่ไม่จอดกีดขวางทางจราจร ไม่จอดในที่ห้ามจอด เท่านั้นเป็นพอ
สนนราคาค่าใช้บริการคิดเป็นนาที ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของประเทศพัฒนาแล้วแห่งนี้ถือว่าไม่แพงเลย และขนาดเมืองที่ไม่ใหญ่ ฟุตบาทมีทางลาดทุกมุมถนน ถือว่าสะดวก รวดเร็ว จอดได้ทุกที่ไม่ต้องมองหาที่คืนรถเหมือนบริการเช่าจักรยานตามเมืองใหญ่หลายแห่ง แถมยังไม่ต้องต้องแบก Scooter ส่วนตัวขึ้นไปตั้งไว้ข้างโต๊ะทำงาน และที่สำคัญ รถเหล่านี้มีทะเบียนและมีประกันอุบัติเหตุพร้อมสรรพ
Sharing Economy คงเป็นจริงได้ถ้าคนในสังคมช่วยกันดูแลรักษาของที่มีไว้ใช้ร่วมกัน ปรับ Mind Set การเป็นเจ้าของทรัพย์สิน และการสนับสนุนของภาครัฐ อย่างเช่นที่กำลังเกิดขึ้นใน Wellington นี้
ที่มา