29 กรกฎาคม 2562…ภาพที่เห็นเป็นกระแสอยู่ในโซเชียลมีเดียในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา อธิบายทั้งเรื่อง Social Impact และ Brand Purpose น้ำดื่มสิงห์
1ฝาขวด 1ขวด PET และ 1พื้นที่สื่อสาร บนขวดน้ำดื่มสิงห์ ได้ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม
ในด้านสิ่งแวดล้อม ทุกคนที่อ่านข่าวและใช้โซเชียลมีเดีย คงจะเห็นถึงความพยายามของมนุษย์ในการนำขวด PET ที่ใช้แล้ว รวมทั้งฝาขวด แยกขยะอย่างถูกวิธี กลับเข้าสู่ระบบ Circular Economy ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย แล้วนำกลับมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด เสื้อเชิร์ต กระเป๋าเป้ ที่ใส่ได้ประจำวัน โดยมีส่วนผสมของขวด PET จำนวน 7-8 ขวด หรือ 10-12 ขวดต่อเสื้อ 1 ตัว หรือแม้กระทั่งผ้าไตรจีวรของพระ ก็สามารถผลิตและถวายพระใช้ได้แล้วเช่นกัน
ในด้านสังคม ปรากฎการณ์แชร์ภาพข้างต้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วบนเฟสบุคส่วนตัว และบนเพจข่าวธุรกิจการตลาด กลายเป็น Social Impact ซึ่งความเห็นเป็นไปในแนวทางเดียวกันคือ ดี ชื่นชมในการช่วยเหลือสังคมในรูปแบบนี้ของน้ำดื่มสิงห์ ที่ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา
คำว่า “เด็กหาย” นอกจากครอบครัวเด็กญาติเด็กแล้ว การสร้าง Awareness ให้สังคมมีโอกาสช่วยเหลือยังมีความจำเป็น ยิ่งมีโอกาสเห็นภาพได้มากเท่าใด รวมถึงกระจายในวงกว้างมากเท่าใด ยิ่งมีโอกาสพบ “เด็กหาย” ได้มากขึ้น ซึ่งเด็กที่ถูกแจ้งว่าเป็น “เด็กหาย” จำนวนหนึ่ง มักจะถูกตามพบ และกลับสู่อ้อมอก พ่อ แม่ และครอบครัว
ทว่า “เด็กหาย” จำนวนหนึ่ง ซึ่งได้ใช้เวลาตามหามากกว่า 5 ปี เช่นในกรณีที่อยู่บนฉลากน้ำดื่มสิงห์ขณะนี้ที่วางขายบางแห่งแล้ว และน้ำสิงห์ฉลาก “เด็กหาย” น่าจะเห็นมากขึ้นในทุกช่องทางจัดจำหน่ายน้ำสิงห์ ช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
การร่วมมือทำงานให้สังคมของน้ำดื่มสิงห์ครั้งนี้ กับมูลนิธิกระจกเงา จะเป็นโอกาสช่วยพ่อแม่และครอบครัว “เด็กหาย” ในวงที่กว้างขึ้น ในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายน้ำดื่มสิงห์ ทั้งที่เป็นโมเดิร์นเทรด และเทรดิชันนัล เทรด ทั่วประเทศ บนขวดน้ำสิงห์ขนาดที่ขายดีที่สุด ซึ่งเดาได้ไม่ยากคือขนาด 750 CC.
น้ำดื่มสิงห์ กับมูลนิธิกระจกเงา ได้ร่วมกันสร้าง Social Impact เป็นส่วนหนุน Brand Purpose ที่มากกว่า ธุรกิจและการตลาด
