18 ตุลาคม 2562…อุตสาหกรรมแฟชั่นมักจะบอกผู้คนว่า ช่วงฤดูร้อนนี้จะสวมใส่อะไร อะไรจะทิ้งไว้ในอดีต และสิ่งที่จะตั้งตารอปีหน้าคืออะไร แต่มักเงียบเมื่อถามถึงความยั่งยืนของธุรกิจแฟชั่น
โชคดีที่เราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เรียกว่า Green Clothing มีประโยชน์ที่น่าอัศจรรย์สำหรับมนุษย์ สัตว์ และทั้งโลก แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์เหล่านั้นจริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ ?
ตอนนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่จะบอกคุณว่า สิ่งที่เรียกว่า Sustainable Clothing นั้นนำไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างไร
มลพิษที่เกิดจาก Fast Fashion
โดยทั่วไปการผลิตเสื้อผ้า จะทิ้ง Carbon Footprint มากมายมหาศาล เมื่อรวมกับมลพิษจากสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ในการปลูกฝ้าย และสีย้อมที่เป็นพิษที่ใช้ในการทำให้เกิดสีที่สมบูรณ์แบบเหล่านี้ มีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อโลก
โชคดีที่ยังมีบริษัทอย่าง Rockay Running ที่ไม่เพียงแต่ผลิตเสื้อผ้าที่คงทนและยั่งยืนเท่านั้น บริษัทนี้ยังเคารพความยั่งยืนและการปฏิบัติเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วย บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ในการผลิตผลิตภัณฑ์ของพวกเขาแทนที่จะใช้ผ้าฝ้ายธรรมดาที่ต้องใช้สารเคมี 0.3 ปอนด์เพื่อผลิตเสื้อผ้าชิ้นเดียว !
ลดการสูญเสีย
ปัญหาอีกประการหนึ่งของอุตสาหกรรมแฟชั่นคือ Fast Fashion และเสื้อผ้าที่เสื่อมสภาพหลังจากซักไม่กี่ครั้ง ขณะที่การซื้อสินค้าแบบ Organic มีความสำคัญมาก คุณต้องหาชิ้นส่วนที่คงทนซึ่งจะคงอยู่นาน แทนที่จะใส่กางเกงแฟชั่นใหม่ มันฉลาดกว่าที่จะลงทุนในบางสิ่งที่มีรูปทรงคลาสสิค ความนิยมของสีที่เป็นกลาง ช่วยให้มันอยู่ในรูปแบบเดิมได้หลายปี ตรวจสอบสิ่งที่คุณใช้สอยสม่ำเสมอ ลดการสูญเสีย ซึ่งจะสิ่งที่ดีมากสำหรับโลก อย่าซื้อของไม่จำเป็นมาใส่ในตู้เสื้อผ้า ถ้าคิดว่าใช้มันได้แค่ปีเดียว
ไม่ทารุณสัตว์
รองเท้าหนังรุ่นใหม่หลายๆรุ่น ที่หนึ่งในยักษ์ใหญ่แฟชั่นนำเสนอบนรันเวย์ในฤดูใบไม้ร่วง / ฤดูหนาวอาจจะดี อย่างไรก็ตาม แต่นั่นก็หมายความว่า สัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งตัวหนึ่งต้องตายไปเพื่อผลิตรองเท้าเหล่านั้น เป็นการดีกว่าไหมที่จะผลิตสิ่งของที่ไม่ผลิตจากความโหดร้าย สิ่งที่คุณสวมใส่ได้โดยไม่ต้องกังวลว่า สัตว์ผู้บริสุทธิ์ต้องตายเพื่อมาเป็นรองเท้า หรือ Accessory ใดๆของคุณ
ซื้อผลิตภัณฑ์ Fair Trade
บริษัทหลายแห่งต่อสู้กับการจัดหาเสื้อผ้าราคาถูกให้กับร้านค้า ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อลดต้นทุนการผลิต ผลที่ตามมาที่ฉาวโฉ่ที่สุดของ Fast Fashion คือ Sweatshops เพื่อลดต้นทุนการผลิต บางบริษัท เลือกที่จะย้ายการผลิตของพวกเขาไปยังประเทศกำลังพัฒนาที่พวกเขาสามารถหาแรงงานราคาถูก และระบบภาษีที่หย่อนยาน คนจำนวนมากทำงานที่นั่นในสภาพที่เลวร้าย โดยไม่มีมาตรการความปลอดภัยขั้นพื้นฐานและล้อมรอบด้วยความรุนแรงในสถานที่ทำงาน
ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนยังได้รับค่าแรงต่ำมาก และคนงานหลายคนในโรงงานยังเป็นเด็ก ขณะที่การใช้แรงงานเด็กกลายเป็นประเด็นพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก
ต้นทุนที่แท้จริงซึ่งทำให้ตาเปิดกว้าง
ดังนั้น จึงต้องมั่นใจว่า ได้ซื้อเสื้อผ้าที่ผลิตในท้องถิ่น หรือชิ้นที่มีเครื่องหมาย Fair Trade ซึ่งสินค้าเหล่านี้ผลิตขึ้นภายใต้สภาพการทำงานที่ปลอดภัย พวกเขาได้รับการปกป้องเรื่องความปลอดภัยอย่างดี ได้รับค่าจ้างที่ยุติธรรม การสนับสนุนการผลิตที่เป็นธรรมแสดงให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดสูญเสีย รวมทั้งยังมีบริษัทที่ให้ความสำคัญกับผู้คนและสถานที่มากกว่าตัวเลข
การซื้อ Sustainable Clothing และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมยังไม่สิ้นสุด
คุณสามารถซื้อเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังคงสร้างมลภาวะหากคุณไม่ใส่ใจจัดการเสื้อผ้าของคุณอย่างถูกวิธี เพื่อรักษาจุดยืนเรื่อง Green ให้มั่นคง คุณต้องซักเสื้อผ้าใน Cold Cycle เพราะมันช่วยลดการใช้พลังงาน นอกจากนั้น คุณต้องใช้ผงซักฟอกที่ย่อยสลายได้ เพื่อป้องกันมลพิษทางน้ำและดิน การอบแห้งแบบ Line นั้นดีกว่าการอบแบบปั่นแห้ง เพราะประหยัดทั้งพลังงานและเงินมากขึ้น
คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชีวิตตัวเองเพื่อให้โลกมองว่าเป็น “คนมีสไตล์ หรือฉันเป็นคน Green นะ” สิ่งที่ต้องทำคือ เปลี่ยนวิธีที่มองเรื่องแฟชั่น การซื้อ Sustainable Clothing และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการทำให้ตู้เสื้อผ้าของคุณว่างเปล่าจากสิ่งสกปรกและสิ่งที่ไม่จำเป็น
ที่มา
