8 พฤษภาคม 2562…ไทยพัฒน์ ส่ง 2 เครื่องมือวัด 1 คือS-Value ใช้สร้างคุณค่าที่พึงประสงค์ทางธุรกิจ อีก 1 คือ S-Impact ใช้สร้างผลกระทบที่คาดหวังสู่สังคม ตอบโจทย์การวัดผลที่เป็น Return on Sustainability จากการขับเคลื่อนเรื่องนี้ขององค์กร
ในปี 2562 นี้ Sustainability Store โดยสถาบันไทยพัฒน์ ได้เปิดอีก 2 บริการใหม่ ได้แก่ การสร้างคุณค่าแห่งความยั่งยืน (S-Value) และการสร้างผลกระทบแห่งความยั่งยืน (S-Impact) เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์จากการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนของกิจการในรูปของการวัดผลตอบแทนจากความยั่งยืน หรือ Return on Sustainability
S-Value เป็นการนำเครื่องมือ Value Driver Model ที่พัฒนาขึ้นโดย หน่วยงาน UN Global Compact และ UN-supported Principles for Responsible Investment (PRI) มาใช้ออกแบบและสร้างคุณค่าที่สะท้อนสู่ตัววัดทางการเงินของกิจการ จากการดำเนินงานเรื่องความยั่งยืนใน 3 มิติ ได้แก่ การเติบโต (Growth) ผลิตภาพ (Productivity) และการจัดการความเสี่ยง (Risk Management)
S-Impact เป็นการนำเครื่องมือ Impact Management ที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือขององค์กรชั้นนำหลายแห่ง อาทิ UNDP, OECD, GRI ฯลฯ ภายใต้กลุ่ม IMP (Impact Management Project) มาใช้ออกแบบการดำเนินงานเรื่องความยั่งยืนเพื่อสร้างและบริหารจัดการผลกระทบที่เป็นระบบและรอบด้านใน 5 มิติ ได้แก่ อะไร (What) ใคร (Who) เท่าใด (How Much) ระดับการเข้ามีส่วนร่วม (Contribution) และความเสี่ยง (Risk)
จากการสำรวจของสถาบันไทยพัฒน์ ต่อการนำเครื่องมือ Value Driver Model และ Impact Management มาใช้ในการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนของกิจการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 กับผู้ตอบแบบสอบถาม 107 ท่าน พบว่า
-ร้อยละ 50.5 มีความสนใจมากในเครื่องมือ Value Driver Model
-ร้อยละ 40.2 มีความสนใจปานกลางในเครื่องมือ Value Driver Model
-ร้อยละ 9.3 สนใจน้อยและยังไม่แน่ใจ
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มเดียวกัน
-ร้อยละ 56.6 ระบุว่ามีความสนใจมากในเครื่องมือ Impact Management
-ร้อยละ 37.7 มีความสนใจปานกลางในเครื่องมือ Impact Management
-ร้อยละ 5.7 สนใจน้อยและยังไม่แน่ใจ ตามลำดับ
ส่วนผลการสำรวจเรื่องประโยชน์ต่อการนำเครื่องมือดังกล่าวมาใช้
-ร้อยละ 80.8 เครื่องมือ Value Driver Model มีประโยชน์มาก
-ร้อยละ 14.4 เครื่องมือ Value Driver Model มีประโยชน์ปานกลาง
-ร้อยละ 4.8 มีประโยชน์น้อยและยังไม่แน่ใจ
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มเดียวกัน
-ร้อยละ 76.7 ระบุว่าเครื่องมือ Impact Management มีประโยชน์มาก
-ร้อยละ 19.4 เครื่องมือ Impact Management มีประโยชน์ปานกลาง
-ร้อยละ 3.9 มีประโยชน์น้อยและยังไม่แน่ใจ ตามลำดับ
วรณัฐ เพียรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์ กล่าวว่า “บริการ S-Value เหมาะสำหรับการวัดผลได้ภายใน (Internal Benefit) ที่เกิดขึ้นกับองค์กร ขณะที่ S-Impact เหมาะสำหรับการวัดผลได้ภายนอก (External Benefit) ที่เกิดขึ้นกับสังคมหรือผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย จากการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนของกิจการ”
สำหรับองค์กรธุรกิจที่นำเครื่องมือทั้งสองมาใช้ควบคู่ไปพร้อมกัน จะได้ทั้งคุณค่าภายในและผลกระทบภายนอก ในรูปของผลได้รวม (Total Benefit) ที่ตอบโจทย์การวัดผลที่เป็น Return on Sustainability จากการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนได้อย่างรอบด้าน