23-24 มกราคม 2564…การรณรงค์หาเสียงให้กับฝ่ายประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ระบุความสําคัญหลัก 4 เรื่องที่เขาจะทํา ต่อสู้กับ COVID-19 ,ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ,ต่อสู้กับการเหยียดผิว และภาวะโลกร้อน
ทีมงานของ Biden วางแผนที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศด้วยสิ่งที่เรียกว่า “การปฏิวัติพลังงานสะอาด-Clean Energy Revolution”
เริ่มต้นวันแรกในสํานักงานประธานาธิบดี ไบเดนระบุในเว็บไซต์ของเขาว่า เขาจะลงนามในคําสั่งผู้บริหารหลายคําสั่ง ซึ่งหลายเรื่องทำตรงข้ามกับสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทำเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมก่อนหน้านี้
เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ Biden Plan เพื่อให้แน่ใจว่า สหรัฐอเมริกาบรรลุแผนพลังงานสะอาด 100% และอยู่บนเส้นทางการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เป็นศูนย์สุทธิ หรือ Net-Zero Emissions ภายในปี 2050
แผนดังกล่าวรวมถึงการจํากัดมลพิษจากมีเทนที่เกิดจากการใช้น้ํามันและก๊าซ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากยานพาหนะ โดยการบังคับใช้กฎหมายอากาศสะอาด (Clean Air Act )ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกําหนดให้ บริษัทมหาชนเปิดเผยความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ
ประธานาธิบดีไบเดน ยังเรียกร้องให้สภาคองเกรส ออกกฎหมายเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศในปีแรกของการเป็นประธานาธิบดี ซึ่งรวมถึงวิธีการบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมในช่วงท้ายของวาระแรกของเขาอีกด้วย
สภาวะโลกร้อนจะส่งผลกระทบต่อเราทุกคน แต่ผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้น กลับเกิดขึ้นกับชุมชนชนชั้นรากหญ้า ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่าเขาจะปฏิบัติตามพันธกรณีต่อคนงานและชุมชนที่ขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมของอเมริกาโดยเฉพาะอุตสาหกรรมถ่านหินและโรงไฟฟ้า เขาวางแผนที่จะรักษาผลประโยชน์ของคนงานเหมืองถ่านหิน และครอบครัวตามที่เคยร้องขอ พร้อมกับการให้สิทธิที่จะเข้าถึงการลงทุนของรัฐบาลกลาง เพื่อช่วยเกิดการจ้างงานของสหภาพที่จ่ายค่าจ้างสูงไปให้แก่ชุมชนเหล่านั้น โดย Biden Plan ได้รวมการพัฒนาโซลูชั่นตามสภาพภูมิอากาศภายในชุมชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะโลกรวนเข้าไปด้วย
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีชุดของ Biden คาดว่าจะใช้งบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงแรกของการทำงานเพื่อสร้างงานนับล้านตำแหน่ง เพิ่มพลังงานสะอาด ยุติการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายจากภาคพลังงานของสหรัฐอเมริกาภายในปี 2035
“เรามีแผนจะสร้างประเทศที่แข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นโดยการลงทุนสร้างถนน อาคาร กริดไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับน้ํา ซึ่งจะทนทานต่อผลกระทบของภาวะโลกร้อน โดยความคิดริเริ่มนี้จะช่วยสร้างงานใหม่มากกว่า 10 ล้านตําแหน่งในสหรัฐอเมริกา”
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ไม่ได้เป็นเพียงภัยคุกคามระดับชาติ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ประธานาธิบดีไบเดนต้องการเชิญชวนประเทศอื่น ๆในโลกเพื่อตอบสนองภัยคุกคามดังกล่าว เริ่มจากการตอกย้ำความมุ่งมั่น และเข้าร่วมข้อตกลงปารีสอีกครั้ง ตามด้วยความพยายาม เป็นผู้นําในการเชิญชวนประเทศใหญ่ ๆ ให้เพิ่มความพยายามจัดการประชุม และทำให้ได้เกินเป้าหมายในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ
ที่มา