TALK

CEO เอสซีจี นำทีม “ถกแขนเสื้อ” เพิ่มความฟิตทางธุรกิจ หยุด “ธุรกิจ” ที่ “ไม่ใช่”

27-28 กรกฎาคม…โฟกัสธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งเป็น 1 ใน 5 แนวทาง เร่งเพิ่มความฟิตทางธุรกิจ สร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน

ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต เช่น มุ่งธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ครบวงจรสำหรับตลาดที่อยู่อาศัย โรงงานและนิคมอุตสาหกรรม หรือ Clean Energy ต่าง ๆ ดังนั้นธุรกิจที่ดู Landscape อย่างคู่แข่งที่ Undercut แล้วได้ความแตกต่างไหม เมื่อ Undercut แล้วเอสซีจีจะถมเงินเข้าไปอีกหมื่นล้าน

“ผมพูดตรง ๆ เลย ถ้าผมสู้ต่อ ผมใส่เงินอีกหมื่นล้าน หมื่นล้านผมเชื่อว่าเอสซีจีก็มีเงินนะ แต่ถามว่าได้ประโยชน์อะไร ถ้าใส่หมื่นล้านแล้ว ผมได้ Customer Base, Customer Royalty แล้วก็เกิดประโยชน์กับกับทุกคนโอเคเลย แต่หมื่นล้านผมใส่ไปทําให้อีคอมเมิร์ซเหล่านั้นโตขึ้น แต่ไม่ใช่เอสซีจีก็ไม่รู้จะทําทำไม ผมว่าเราไปทำโซล่าร์รูฟดีกว่าไหม ถูกไหมครับ เราไปโตเรื่องห้องเย็น SCGJWD ดีกว่าไหม เราไปโตในเรื่องอื่น ๆ ที่มันยังมีอัตราการเติบโตสูง ใช้เงินแบบนี้คุ้มค่ากว่าไหม เอสซีจีมี HVA 40% รายได้พรีเมี่ยม 100 เหรียญต่อตัน”

ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจรสำหรับตลาดที่อยู่อาศัย โรงงานและนิคมอุตสาหกรรม และฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด

การหยุดธุรกิจขนส่งแมวดำในประเทศไทย รวมการก่อสร้างที่ไม่มี Green Innovation คาดว่าจะมีพนักงานประมาณ 50-60 คน โดยจะ Redeproy คน ส่วนพอร์ตรายได้ดีขึ้น เพราะหยุดภาระ ! หยุดขาดทุน !

ทั้ง 2 ธุรกิจดังกล่าวเป็นส่วนเล็ก ๆ จำนวนหนึ่งจากหลายธุรกิจเล็ก ๆ ทุกข้อมูลจะรายงาน CFO ทุกเดือนเก็บข้อมูลดูผลประกอบการย้อนหลังทั้งหมด ถ้าไม่ดีต้องกลับไปพิจารณาว่าเป็นอย่างไร แล้วกลับมาเล่าแผนถ้าจะเดินหน้าต่อ คิดว่าดีขึ้นได้อย่างไร จะทําอะไรบ้าง

“ผมบอกน้อง ๆ เสมอว่า ผมพร้อมจะให้ลอง ขอให้คุณกล้าคิด คุณมาทําตาม Design Thinking ผมพร้อมจะให้ลอง ถ้าเราไม่ลอง เราจะไม่มีเรื่องใหม่ ๆ เลย แต่ว่าคุณลองเล็กหน่อย เอาลองเล็ก Start Small ,Learn Fast,Fail Fast บริษัทที่ไม่มีการทดลองเลย ผมว่าไม่รอดใน 5 ปี 10 ปี ดังนั้นต้องมีกระบวนการในการให้เขาลอง ให้ความมั่นใจ”

เอสซีจี ส่งปูนคาร์บอนต่ำสู่ตลาดโลก และดิจิทัลโซลูชันจาก REPCO NEX ดูแลเครื่องจักรและซ่อมบำรุงได้อย่างแม่นยำ มีเสถียรภาพ

ธรรมศักดิ์เล่าต่อเนื่อง

“น้อง ๆ หลายคนบอกว่าปิดไปแล้ว หนูจะแย่ไหม ผมบอกน้องครับ พี่ลงทุนน้องไปเป็นร้อยล้านยังแพงกว่าเรียน MBA อีก อันนี้เจ็บจริงของแท้ นี่คือสิ่งมีค่ามาก ผมบอกว่าไม่ต้องกังวล เอสซีจีเชื่อมั่นในคุณค่าของคนเพราะฉะนั้น ต้องลอง ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกไม่กล้าไปหมด เจ็บแล้วต้องปรับปรับตัวเร็วนะ ไม่ใช่เจ็บแล้วก็ยังชนเจ็บ ซึ่งโมเดล Fail Fast,Learn Fast เอสซีจีก็มีหลายตัวแล้ว สิ่งสําเร็จก็เป็นธุรกิจออกมาได้แบบเจริญงอกงามใหม่ เช่น ปูนคาร์บอนต่ำ เทคโนโลยีเราเอง”

 

ส่วนอีก 4 แนวทาง เร่งเพิ่มความฟิตทางธุรกิจ สร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน คือ บริหารต้นทุนพลังงาน อาทิ ธุรกิจซีเมนต์ในไทยเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงทดแทนได้ 47% ปรับปรุงการจัดเก็บ ขนส่ง กระจายสินค้า เช่น ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลวางแผนการจัดส่ง ตรวจรับสินค้า ช่วยลดเวลาทำงาน ลดความเสียหาย ลดโอกาสผิดพลาดในการรับ-ส่ง ประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเอสซีจี เคมิคอลส์ใช้โซลูชัน AI จาก REPCO NEX ในการดูแลเครื่องจักรและซ่อมบำรุงได้อย่างแม่นยำ มีเสถียรภาพ (Reliability) ถึง100% สุดท้าย มุ่งส่งมอบโซลูชันที่ฟังก์ชันและราคาตรงกับความต้องการของลูกค้า อาทิ CPAC รถโม่เล็ก ขนาดกะทัดรัด สำหรับงานก่อสร้างในเมืองที่มีซอยเล็ก บรรทุกคอนกรีตได้มากสุด 2 คิวต่อเที่ยว ช่วยบริหารปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ได้ง่าย ลดการเหลือทิ้ง

 

You Might Also Like