9 เมษายน 2562… ศุภจี สุธรรมพันธุ์ Group CEO,DTC ย้ำข้อความข้างต้นเพื่อให้สอดคล้องวิสัยทัศน์ Here for a Lush Quality of Life โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะที่เสมือนปอดขนาดใหญ่กลางกรุง
Green Building & LEED
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC อธิบายถึงโครงการ Dusit Central Park โครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสานหรือมิกซ์ยูส มูลค่า 36,700 ล้านบาท โดยโครงการประกอบด้วย โรงแรม ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน พื้นที่รวม 440,000 ตร.ม. บนที่ดินกว่า 23 ไร่ ตรงมุมถนนสีลม- พระราม 4
โดยทั้งโครงการ ยึดหลักการออกแบบของ Green Building & LEED ตั้งแต่เริ่มต้นที่คิดโครงการ
“เราใช้มาตรฐานการออกแบบที่เรียกว่า Energy Sustainability Design หรือ ESD ที่คำนึงถึง Mechanical & Electrical System Reliability, Energy conservation, Indoor Air Quality, Water reuse และ Renewable Energy เป็นองค์ประกอบหลัก”
ด้วยเหตุผลที่จะพัฒนาโครงการที่ดีที่สุด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อคนกรุงเทพฯ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการประหยัดพลังงาน การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Here for a Lush Quality of Life ของโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะที่เปรียบเสมือนเป็นปอดขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ
“เราเลือกที่จะยื่นขอรับ LEED Certification จากสถาบัน USGBC หรือ The U.S. Green Building Council ในส่วนของอาคารสำนักงาน เพื่อให้อาคารสำนักงานแห่งใหม่เป็นอาคารสำนักงานในแบบที่เป็นเกรด เอ และ พรีเมี่ยมจริงๆ ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่เป็นผู้เช่าในระดับสากลชั้นนำระดับโลก ซึ่ง Certification มีผลกับการตัดสินใจของผู้เช่าเหล่านี้”
ศุภจี ขยายความต่อเนื่องถึงประโยชน์ต่างๆ จากการออกแบบโดยยึดหลัก Green Building ที่โครงการจะมอบให้ได้แก่ผู้ที่มามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการประกอบด้วย
•ลดใช้พลังงานที่ไม่สามารถสร้างทดแทนได้ เช่น การใช้น้ำมัน การใช้ไฟฟ้า
•ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการน้ำเสีย จัดการอากาศเสีย ไม่เพิ่มปัญหาการจราจรโดยสนับสนุนให้มีการใช้ระบบขนส่งมวลชน ซึ่งผ่านหน้าโครงการถึง 2 สาย (BTS/MRT)
•ลดปริมาณขยะ
•ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านการเลือกใช้วัสดุ Recycle
•สุขภาพของผู้ใช้อาคารที่ดีขึ้น เพราะคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีขึ้สภาวะความสบายจากการใช้อาคารเพิ่มขึ้นตลอดวงจรชีวิตอาคาร
•ค่าใช้จ่ายระหว่างใช้อาคารลดลง เช่น ค่าพลังงานไฟฟ้า ค่าน้ำ
Super Core CBD
ข้อมูลข้างต้น จะต้องอยู่ในแผนธุรกิจทั้งหมดของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ “ดุสิตธานี” ผู้นำในการพัฒนาธุรกิจโรงแรมและการบริการที่มีประสบการณ์มายาวนานมาถึง 70 ปี ผนึกกำลัง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอ็น” ผู้นำในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ที่มีมากว่า 40 ปี
ทั้งสองผู้นำ ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ในการพลิกโฉมใจกลางกรุงเทพฯ สร้าง “ซูเปอร์คอร์ซีบีดี” เชื่อมย่านสำคัญของกรุงเทพฯ เป็นแลนด์มาร์กแห่งการใช้ชีวิตระดับโลกที่สมบูรณ์แบบที่สุด อีกทั้งช่วยสร้างกรุงเทพฯ สู่มหานครที่ดีสุดอีกแห่งหนึ่งของโลก โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปี พ.ศ. 2567
Dusit Central Park มีความเป็น “ซูเปอร์คอร์ซีบีดี”ตั้งแต่4 ย่านสำคัญจากทั้ง 4 ทิศของกรุงเทพฯมุ่งตรงสู่ใจกลางเดียว ได้แก่ ย่านราชประสงค์ทางทิศเหนือ เจริญกรุงทางทิศใต้ สุขุมวิททางทิศตะวันออก และเยาวราชทางทิศตะวันตก ทำให้เกิดเป็น The New Junction ที่เชื่อมโยงทุกย่านสำคัญของกรุงเทพฯ
“เราเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สามารถเชื่อมต่อกับการจราจรทุกระนาบ ทั้งระบบขนส่งมวลชนทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ตลอดจนการจราจรบนท้องถนน และทุกอาคารสามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินีได้อย่างชัดเจนไร้การบดบัง ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาความสะดวกสบาย และการใช้ชีวิตอย่างมีระดับด้วยการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่”
ศุภจีกล่าวในท้ายที่สุดว่า สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ เชื่อมให้ทุกย่านรอบๆ นี้ให้เติบโตไปพร้อมกัน ซึ่ง Dusit Central Park จะเป็นจุดกลางเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งย่านเก่าและย่านใหม่ รวมถึงย่าน Financial เข้ากับย่าน Commercial ซึ่งจะช่วยยกระดับผังเมืองกรุงเทพฯ
เนื้อหาเกี่ยวข้อง