TALK

Good Food Good Heart By เจ๊จง หมูทอด & ไส้กรอกแม่ไก่

16 ตุลาคม 2561…บนเวทีสัมภาษณ์ สองสาวเพื่อนซี้เจ้าของแบรนด์“เจ๊จง หมูทอด”และ “ไส้กรอกแม่ไก่” จับมือกันมาบอกเล่าประสบการณ์กว่าจะมาเป็นธุรกิจเงินล้านจนถึงทุกวันนี้

เจ้าของกิจการทั้งสองผ่านวิกฤตด้วยกันทั้งคู่ แต่อาศัยความตั้งใจที่จะทำอาหารที่ดีมีคุณภาพ ราคาไม่แพงเป็นอาวุธในการฝ่าฟันขวากหนาม วันนี้เธอทั้งสองกลายมาเป็นผู้ให้ต่อเพื่อนมนุษย์และสังคมโดยไม่ต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยน

จงใจ กิจแสวง เจ้าของแบรนด์ “เจ๊จง หมูทอด” ที่วันนี้ใครๆ ต่างพูดติดปากว่าเป็นหมูทอดเงินล้าน แท้จริงแล้วเธอเริ่มจากการเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงในตลาด แต่ภายหลังโด่งดังจากหมูทอดทั้งๆ ที่คิดว่าจะทำมาเป็นรายได้เสริมเท่านั้น เพียงไม่นานก็ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด เพราะนอกจากนำวัตถุดิบคุณภาพมาปรุงอาหารแล้ว ยังขายในราคาแสนถูก พร้อมเสิร์ฟผัก และผลไม้ให้กับลูกค้าฟรี

จากที่ไม่เคยมีแบรนด์อะไรกับเขา แต่ความอร่อยและน้ำใจที่เธอหยิบยื่นให้กับลูกค้าเป็นตัวตนที่ลูกค้าเรียกร้านเธอว่า หมูทอดเจ๊จง

“ตอนที่ได้ยินคนพูดหมูทอดเจ๊จงถึงได้รู้ว่า อ้อ!เรามีแบรนด์แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบรนด์คืออะไร ทำให้เรากลับมาคิดว่า ที่คนจำเราได้เพราะเราขายถูก ดี และมีน้ำใจ เราพูดเสมอว่า ถึงจะขายของถูก แต่เน้นคุณภาพ แปลว่า คนที่มีเงินน้อยมากินร้านเรา อิ่มแล้วยังได้กินของดีด้วย เพราะเราเลือกใช้เนื้อหมูไม่ติดมัน แถมมีผักฟรีให้ลูกค้ากินแกล้ม แล้วก็มีกล้วยให้ลูกค้ากินด้วย”

น้ำใจของเจ๊จง ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เธอยังเผื่อแผ่ไปสู่สังคม ซึ่งมาจากตัวตนที่เธอชอบดูแลคนอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“ครั้งแรกเริ่มจากการทำหมูทอดแจกให้กับพสกนิกรที่ไปสวดมนต์ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประชวร ตอนนี้เราเห็นในทีวีว่ามีคนไปนั่งสวดมนต์ให้ท่านเยอะมาก เลยคิดว่าเขาจะเอาอะไรกิน เลยเป็นครั้งแรกที่คิดทำข้าวไปแจกที่นั่น ต่อมาเมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 เราเห็นชาวบ้านน้ำท่วมไปไหนไม่ได้ ลำบากในการออกไปหากิน เราก็เลยชวนลูกน้องขับรถไปตามที่น้ำท่วมอย่างอยุธยาไปแจกข้าวก็แจกมาตลอด จนโดนน้ำไล่ลงมาจนถึงรังสิต ตอนหลังน้ำท่วมนานหลายเดือนก็เริ่มมีเพื่อนๆ ในตลาดมาช่วยเอารถบรรทุกขนไปแจก จนมาถึงงานพระราชพิถีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เราก็เอาข้าวไปแจกเหมือนกัน”

วันนี้ความสำเร็จของเธอยังถูกนำมาถ่ายทอดเพื่อส่งต่อไปสู่คนอื่นในสังคมด้วย

“รู้สึกภูมิใจที่วันนี้เรื่องราวของเราได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ที่ผ่านมาได้เคยไปพูดที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เขามองว่าเราเป็นไอดอล แต่อยากจะบอกว่าทุกคนก็สามารถเป็นไอดอลให้กับคนอื่นๆ ได้เช่นกัน ขอเพียงแค่คิดดี และทำดีกับคนอื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน”

มาถึง กรรณิการ์ โวหารบัณฑิตย์ เจ้าของแฟรนไชส์แบรนด์ “ไส้กรอกแม่ไก่” ก็เช่นกัน เธอเป็นแม่ค้าขายหมูอยู่ในตลาด เมื่อเห็นเศษหมูที่เหลือจากการขายถูกซื้อเพื่อนำไปไส้กรอกอีสาน ทำให้เธอมองเห็นช่องทางการทำมาหากิน แต่แทนที่เธอจะใช้เศษหมูที่เหลือไปทำไส้กรอกอีสานเหมือนที่คนอื่นทำ เธอเลือกที่จะใช้หมูคุณภาพดีทำแทน ตามความเชื่อส่วนตัวของเธอที่ต้องการใช้ของดีให้ลูกค้าได้กินของอร่อย

แล้ววิธีคิดนี้ทำให้เธอสร้างเงินล้านได้เพียงเดือนเดียว ทั้งๆ ที่ไม่มีแบรนด์ เพราะเธอเองก็ไม่รู้จัก ซ้ำยังไม่เห็นความจำเป็น เนื่องจากมองว่าเป็นการขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้ารับซื้อไปขายต่ออีกที

“ไก่ยอมรับว่าเป็นคนไม่รู้จักว่าแบรนด์คืออะไร คิดแค่ว่าเราเป็นคนตั้งใจทำของดี และอยากให้คนมากินของเรา และตั้งใจบริการให้ถึงใจลูกค้า จุดเริ่มต้นคิดแค่นี้เอง ตอนหลังเพิ่งมาเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งเป็นแบรนด์ไส้กรอกแม่ไก่ จากการที่เราได้ยินคนอื่นเรียกเราว่าแม่ไก่ เพราะเราชื่อไก่”

ของอร่อยกว่าแต่ราคาไม่แพง เป็นต้นทุนเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้แฟรนไชส์ไส้กรอกแม่ไก่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะยังมากับวิธีค้าขายแบบไม่โลภ ไม่เอาเปรียบคู่ค้าที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า ที่วันนี้มีเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 1,000 รายแล้ว

“ไก่เชื่อว่า เราทำดีต่อสังคมในแง่ที่ว่า ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีอาชีพที่ดีและมั่นคง เพราะว่าไก่จะดูแลเขาด้วยการไม่เอาเปรียบ คือนอกจากเราใช้ของดีทำของส่งเขาแล้ว เราดูแลไปถึงวิธีการจัดส่งกว่าจะถึงมือเขา นอกจากนั้นไก่ยังวางระบบการบริหารงาน ใครที่เอาของเราไปขายต้องเอาแบรนด์ของเราไปด้วย เพื่อที่เราจะดูแลให้เกิดความเป็นธรรมในการค้าขาย 1 เจ้าต่อ1 ตลาดเท่านั้น เป็นการรักษาสิทธิ์ในการดูแลพื้นที่ ห้ามขายข้ามเขต เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนอยู่ได้ เราไม่เน้นขายเยอะ แต่ขายให้เขาอยู่ได้”

“เมื่อมีแล้วก็ต้องรู้จักแบ่งปัน” เป็นอีกหนึ่งคติประจำใจที่เจ้าของแบรนด์แม่ไก่ ใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการตอบแทนสังคมมาได้เกือบ 2 ปีแล้ว ผ่านกิจกรรมแจกรถเข็น พร้อมเซ็ตอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ไส้กรอกชุดแรกพร้อมขายมูลค่า 12,000 บาท เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้อื่นบ้าง

ทุกวันนี้ เธอยังทำหน้าที่เดินสายพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ เช่นกัน เธอกล่าวในตอนท้ายว่า

“ถ้าพ่อค้าแม่ค้าได้มีอาชีพจากสิ่งเล็กๆ ที่ไก่ทำ หรือใครก็ตามที่ได้ฟังคำบางคำ ที่ไก่ได้มีโอกาสไปพูดตามเวทีต่างๆ แล้วไปจุดประกายเขา ให้เขาได้มีอาชีพที่สามารถดูแลคนในครอบครัวได้ ก็ถือเป็นความภูมิใจของไก่แล้ว”

เรื่องเกี่ยวข้อง

You Might Also Like